การมีบ้านสักหลังไม่ใช่เรื่องง่าย ขั้นตอนรายละเอียดต่าง ๆ กว่าจะผ่านได้ใช้เวลานานพอสมควรอีกทั้งการผ่อนบ้านต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย ๆ ก็ 20 ปีกันเลยทีเดียว ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อหรือเข้าอยู่ก็ต้องมีการตรวจรับบ้านซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่คำว่าตรวจรับไม่ใช่แค่การมายืน ๆ มอง ๆ แล้วคิดว่าดีแล้วแต่ต้องมีวิธีตรวจรับบ้านให้ถูกต้อง เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าได้บ้านหลังดีที่สุด
เข้าใจดี…ว่าไม่ใช่ทุกคนจะมีความรู้เกี่ยวกับการตรวจรับบ้านเหมือนกันหมด แต่เมื่อได้ลองศึกษาข้อมูลที่กำลังจะพูดถึงวิธีตรวจรับบ้านต่อไปนี้มั่นใจได้เลยว่าจะทำให้คุณมีความชำนาญมากขึ้น และจะได้บ้านคุณภาพดีตามที่ตั้งใจเอาไว้แน่นอน
หลายๆคนจึงนิยมจ้างคนมาตรวจรับบ้าน ซึ่งก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนยุคใหม่ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับบ้านมากนัก แต่เราเองที่เป็นเจ้าของบ้าน ก็ควรมีความรู้ในการตรวจรับบ้านติดตัวไปบ้างเล็กน้อย เดี๋ยวจะกลายเป็นคุยกับเค้าไม่รู้เรื่องไปซะเปล่า
1. เตรียมตัวเองให้พร้อมก่อนตรวจบ้าน
ก่อนอื่นเลยต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมครับ มีการนัดวันเวลาที่เหมาะสมโดยต้องเลือกวันที่ว่างจริง ๆ ไม่ติดธุระไปไหนจะได้ตรวจสอบกันได้นาน ๆ เวลาที่ดีควรเป็นกลางวันเพื่อจะได้เห็นจุดบกพร่องได้อย่างชัดเจน และแนะนำว่าอย่านำเด็กไปนะครับเพราะจะมีความยุ่งยากเกิดขึ้นทำให้ตรวจไม่ละเอียดดังที่ควรจะเป็น
2. อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการตรวจบ้าน
เรื่องต่อมาเป็นอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องเตรียมให้พร้อมในการตรวจรับบ้านประกอบไปด้วย
– ดินสอ ปากกา อันนี้แล้วแต่สะดวกนะครับแต่ถ้าแนะนำใช้ดินสอจดจะลบได้ง่าย แต่บางคนจะเลือกปากกาก็ไม่ใช่ปัญหาอีกทั้งปากกายังเอาไว้เซ็นสัญญาด้วย
– กระดาษเปล่าหรือสมุด เอาไว้สำหรับจดข้อมูลตามที่ได้วางแผนมาว่ามีรายละเอียดตรงไหนบ้าง
– ตลับเมตร / สายวัด ใช้เพื่อวัดว่าเป็นไปอย่างถูกต้องตามแปลนบ้านที่บอกหรือไม่
– ผังแปลนบ้าน สามารถขอได้จากโครงการเพื่อความมั่นใจ เอาไว้ตรวจสอบว่าตรงกับแปลนที่วางหรือเปล่า
– ไฟฉาย สำหรับส่องพื้นที่มืด ๆ เพื่อให้มองเห็นจุดบกพร่อง เช่น รูบนฝ้าเพดาน, ระบบสายไฟบนฝ้า เป็นต้น
– วัสดุทำเครื่องหมาย เช่น เทปพันสายไฟ เทปกาว ชอล์กเขียน รวมถึงเตรียมพวกคัตเตอร์หรือกรรไกรเอาไว้ตัดด้วยก็ได้
– ถังน้ำ สำหรับทดสอบระบบการรั่ว การระบายน้ำ หรือความลาดเอียงของพื้นที่
– ขนมปัง เอาไว้ทดสอบกับระบบกำจัดสิ่งปฏิกูล
– กล้องถ่ายรูป เอาไว้ถ่ายรูปส่วนต่าง ๆ ของบ้านเพื่อเป็นหลักฐาน
– ไขควงวัดไฟ เช็คกำลังไฟภายในบ้านและเช็คว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการเดินสายไฟหรือไม่
ทั้งหมดนี้เป็นอุปกรณ์คร่าว ๆ ที่นำมาใช้เพื่อตรวจรับบ้านนะครับ หากใครคิดว่ามีอย่างอื่นที่ต้องการเพิ่มเติมอีกก็สามารถนำมาได้ เช่น ถุงมือยาง, เศษผ้า, ไม้ที, มือถือ ฯลฯ
3. เข้าสู่กระบวนการตรวจรับบ้านได้เลย
เมื่ออุปกรณ์ทุกอย่างครบครันก็มาถึงวิธีตรวจรับบ้านกันแล้วนะครับ โดยให้ไล่เรียงไปตามลำดับความเหมาะสมดังต่อไปนี้
– ภายในบ้าน ให้ไล่ทุก ๆ ห้องตั้งแต่ประตูหน้าบ้านไปจนถึงด้านในสุด ให้เดินเป็นทางเดียวอย่าเดินย้อนไปมา ส่องทุกจุดอย่างละเอียด เช่น หลังคา, ฝ้าเพดาน, ระบบเดินไฟ, ผนังภายใน ซึ่งแนะนำว่าให้ตรวจสอบกันหลาย ๆ คนครับจะทำให้มองเห็นจุดบกพร่องได้ง่ายขึ้น จากนั้นไล่ขึ้นไปตามบันได ชั้นบนทุกห้อง ระเบียง
– โครงสร้างตัวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นคาน เสา โครงหลังคา ผนัง ฯลฯ ตรงนี้แนะนำว่าให้เข้ามาตั้งแต่ตอนเริ่มก่อสร้างแล้วถ่ายรูปเก็บไว้ครับจะทำให้มองเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าแข็งแรงหรือไม่ ใช้วัสดุประเภทใด แต่เมื่อเข้ามาตรวจรับบ้านตอนเสร็จแล้วก็ไม่ยาก ให้สังเกตรอยร้าวของผนังต้องเรียบเนียน ไม่มีรอยปูด ยุบ สีทาเรียบเสมอกัน ไม่หลุดร่อน , การเดินสายไฟกับผนังหรือตัวบ้าน ความเรียบเนียนของการปูกระเบื้องพื้นหรือวัสดุอื่น ๆ เหยียบทุกแผ่นต้องไม่โปร่ง มีเสียงแปลกๆ
ระบบไฟฟ้า ประปาต่าง ๆ เช่น กำลังไฟถูกต้องตามที่ระบุ, ลองนำอุปกรณ์ไฟฟ้ามาเสียบใช้, ปลั๊กไฟติดตั้งเป็นระเบียบ ไม่มีสายไฟโผล่ตามจุดต่าง ๆ, ระบบระบายน้ำเสีย ท่อระบายน้ำไหลอย่างถูกต้องเหมาะสม ระบบกำจัดสิ่งปฏิกูลไม่มีปัญหา
– ภายนอกบ้าน อย่าลืมตรวจรับบ้านอีกจุดคือบริเวณภายนอกบ้านว่าคุณภาพตรงตามต้องการหรือไม่ เช่น ประตูรั้ว, หลังคาโรงจอดรถ, กำแพง, พื้นที่ว่าง เป็นต้น เผื่อมีจุดไหนดูแล้วยังไม่ตรงตามความต้องการจะได้แก้ไขไม่ยาก
4. สรุปงานพร้อมแจ้งรายละเอียด
เมื่อตรวจรับบ้านเรียบร้อยให้ทำการสรุปงานกับโครงการหรือเจ้าของผู้รับเหมาอีกครั้งว่าพบเจอปัญหาที่จุดไหนบ้างเพื่อจะได้ปรับปรุงแก้ไขต่อไป
เมื่อรู้วิธีตรวจรับบ้านอย่างละเอียดแล้ว เมื่อคุณสะดวกที่จะจ้างคนมารับตรวจรับบ้าน ก็จะช่วยคุยได้แลกเปลี่ยนความรู้กับเหล่าวิศวกรเพื่อให้ได้บ้านที่เนี๊ยบ สมใจแล้วคุณก็จะได้บ้านในฝันตามความต้องการของตนเองไม่ยากเลย อย่าปล่อยปละละเลยกับการตรวจรับบ้านที่มองว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ เพราะถ้าเข้าอยู่แล้วมีปัญหาคงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง