ค่าใช่จ่ายภายในบ้านส่วนใหญ่นั้น ทุกคนจะรู้ดีว่า ค่อนข้างใช้จ่ายเยอะมากในแต่ละเดือน ซึ่งที่ที่เรียกว่าบ้าน ก็มักจะต้องใช้สอยทรัพยากรทั้งทางด้านการอุปโภค บริโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนให้อุปกรณ์ภายในบ้าน ใช้งานได้ทุกวัน ทั้งการให้แสงสว่าง ให้ความเย็นจากการเปิดแอร์ พัดลม ให้คนในบ้านได้กินของอร่อย จากการใช้ตู้เย็น หม้อหุงข้าว กระทะไฟฟ้า สนุกกับการท่องโลกออนไลน์ ผ่านการใช้คอมพิวเตอร์ และอีกสารพัดการใช้สอยภายในบ้าน ที่ต้องพึ่งพา “ไฟฟ้า” เป็นหลัก
แน่นอน เมื่อถึงสิ้นเดือน บิลค่าไฟฟ้าก็มาเยือน หลายคนแทบช็อค กับค่าไฟที่พุ่งกระฉูด ยิ่งช่วงนี้เมื่อเจอสถานการณ์โควิดระบาด หลายคนต้องเปลี่ยนมา Work from Home ค่าไฟยิ่งแพง จนน่าตกใจ เป็นเพราะใช้ไฟฟ้าตลอดเวลา โดยเฉพาะต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานทั้งวัน หรือ แม้กระทั่งการนั่งอยู่บ้าน ก็ต้องเปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าบ่อยๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายลง ในช่วง Work from Home แบบนี้ จึงจำเป็นต้องรู้วิธีการประหยัดไฟฟ้า ซึ่งทำได้ง่ายมากๆ มาดูกันเลย รู้แล้วจะช่วยลดค่าไฟลงไปได้เยอะ
6 วิธีประหยัดไฟฟ้าแบบง่ายๆ ช่วง Work from Home
- กลางวันใช้แสงธรรมชาติ ชาวออฟฟิศที่ต้องโยกตัวเองมา Work from Home จำเป็นต้องอยู่บ้านตลอดทั้งวัน ในช่วงเช้าถึงเย็น หากที่บ้านมีหน้าต่าง บานประตูค่อนข้างเยอะ พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเปิดไฟในตอนกลางวัน ให้ใช้แสงจากธรรมชาติเข้ามา เปิดผ้าม่านให้หมด เปิดหน้าต่างรับแสงที่เพียงพอ ต่อการทำกิจกรรมในบ้าน และยังเป็นข้อดีที่จะช่วยรับลมธรรมชาติ ให้อากาศในบ้านถ่ายเทสะดวกอีกด้วย
- เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED พยายามให้บ้านเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมื่อต้องใช้ไฟให้แสงสว่างในการทำงานในที่มีแสงน้อย จากเดิมที่มักใช้หลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ ควรลองเปลี่ยนมาเป็นหลอดไฟ LED ซึ่งให้แสงสว่างได้มากกว่า กินไฟน้อยกว่า ก็เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้า ที่ช่วยลดค่าไฟได้เยอะ
- ปิดทุกอุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน วิธีประหยัดไฟฟ้าข้อนี้ ทุกคนคงรู้ดีกันอยู่แล้ว และยังเป็นสิ่งที่ควรทำเสมอ เหตุผลที่ค่าไฟพุ่งขึ้น ก็เพราะเราอาจจะเปิดใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ฟ้าพร้อมกันเป็นจำนวนมาก หรือเปิดทิ้งไว้เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร ก็กินไฟแบบเสียเปล่า ดังนั้น อะไรที่ไม่ได้ใช้ ให้ปิดการใช้งานไปก่อน เช่น
- ทีวี ถ้าไม่ได้ดู อย่าคิดว่าเปิดทิ้งไว้เพลินๆ ค่าไฟก็ขึ้นมาแบบเพลินๆ ด้วย ปิดก่อน ดูแค่ตอนนั่งดูจริงๆ
- กาต้มน้ำร้อน บางคนติดนิสัย เสียบทิ้งไว้ให้ร้อนตลอดเวลา จนบางทีลืมถอดปลั๊ก กินไฟได้เหมือนกัน
- คนที่ Work from Home มันจะใช้คอมพิวเตอร์ หรือแล็ปท๊อป ทำงาน จะให้ถอดปลั๊ก ปิดเปิดบ่อย อาจไม่ต่อเนื่อง ให้ตั้งค่าพักหน้าจอ หรือ Sleep Mode ไว้เมื่อไม่ใช้งาน หรือ หากทำงานเสร็จแล้ว อย่าเปิดค้างทั้งวันทั้งคืน ปิดคอมถอดปลั๊กให้เรียบร้อย ก็ประหยัดไฟฟ้าแล้ว
- ฝึกปิดสวิตซ์ ถอดปลั๊กอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านให้เป็นนิสัย ก่อนออกไปข้างนอก ลดการใช้ไฟฟ้า
- ใช้ตู้เย็นอย่างถูกวิธี เข้าใจว่าชาว Work from Home จะต้องหิวบ่อยๆ เพราะทำงานหนักผ่านหน้าจอ และต้องไปเปิดตู้เย็นบ่อย ถ้าเป็นไปได้ การใช้ตู้เย็นให้ประหยัดไฟฟ้า ควรใช้ตู้เย็นที่ประหยัดไฟเบอร์ 5 และการตั้งตู้เย็น ควรตั้งห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่เก็บกักความร้อน ซึ่งเป็นเหตุให้ตู้เย็นทำงานหนักมากเกินไป ที่สำคัญ อย่าเปิดตู้เย็นบ่อย เพราะจะทำให้ตู้เย็นใช้พลังงานเก็บรักษาความเย็นมากขึ้น และกินไฟสูง อีกหนึ่งวิธีประหยัดไฟฟ้าจากการใช้ตู้เย็น ก็ต้องจัดการของในตู้เย็น ให้เป็นระเบียบ อย่าแน่นมาก จนความเย็นไหลเวียนไม่ได้ และควรหมั่นกดละลายน้ำแข็งด้วย
- รีดผ้าทีเดียว ทีละมากๆ ก็เป็นอีกวิธีประหยัดไฟฟ้า ที่ทุกคนทำเป็นประจำอยู่แล้ว อย่าเพิ่งขี้เกียจ รีดวันละชุด ควรรีดทีเดียวให้ครบ เพราะการรีดผ้าแต่ละครั้ง จะใช้ไฟปริมาณมาก การรีดผ้าทีเดียว ครั้งละมากๆ จึงเป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าได้ดีกว่า ทำให้ไม่ต้องใช้เตารีดบ่อย ซึ่งในที่นี้ รวมไปถึงการใช้เครื่องซักผ้าด้วย ถ้าซักได้ทีเดียว วันเดียวต่อสัปดาห์ได้ ก็จะลดค่าไฟฟ้าไปได้เยอะ แต่สำหรับช่วงทำงานที่บ้านแบบนี้ ไม่ต้องแต่งตัวไปออฟฟิศ หรือไปข้างนอกบ่อยๆ ก็ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้มากขึ้น แทบไม่ต้องรีดผ้าแล้ว
- เปิดแอร์ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ทำงานอยู่ที่บ้าน อาจจะต้องใช้แอร์เป็นประจำ ถ้าจะให้ประหยัดไฟฟ้า ก็ต้องใช้อุณหภูมิ ไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส หรือ ไม่เกิน 27 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนและไม่เย็นจนเกินไป ก็จะช่วยประหยัดไฟลงได้ เพราะพวกแอร์เครื่องปรับอากาศจะทำงานค่อนข้างหนัก ใช้ไฟเยอะ ทางที่ดี ควรตั้งเวลาปิดแอร์ไว้ด้วย อย่างน้อยก่อนตื่นสัก 30 นาที ความเย็นก็ยังจะหมุนเวียนอยู่ในห้อง ไม่ร้อน ยังพอมีอากาศหายใจ หากต้องการความเย็นมากขึ้น ในระดับที่เหมาะสม อย่าปรับแอร์ให้ลดลงต่ำกว่า 25 องศา แต่ให้ใช้การเปิดพัดลมช่วย ก็จะประหยัดค่าไฟฟ้าให้ถูกลงไปอีก
- ใช้เทคโนโลยี IoT หรือ สมาร์ทโฮม วิธีประหยัดไฟฟ้าข้อนี้ จะเหมาะกับคนที่เข้าใจเทคโนโลยี หรือเลือกใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะภายในบ้าน ซึ่งช่วยประหยัดไฟได้จริง หมู่บ้านจัดสรรส่วนใหญ่ หรือคอนโด ก็นิยมใช้กัน เรียกว่าเป็น Smart Home ให้ความทันสมัย สะดวกสบาย โดยการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเชื่อมต่อกันด้วยอินเทอร์เน็ต และควบคุมการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทำให้สามารถสั่งการหรือควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านได้ เทคโนโลยี IoT จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอนุรักษ์พลังงานภายในบ้าน ประหยัดค่าใช้จ่าย และให้ความสะดวกกับผู้พักอาศัย เช่น สั่งเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า ผ่านสมาร์ทโฟน เปิด-ปิดไฟในบ้านอัตโนมัติ การเพิ่ม ปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ซึ่งใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตล้วนๆ การใช้เทคโนโลยีนี้ จะช่วยประหยัดไฟฟ้าลงได้อย่างเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีระบบแจ้งเตือนการใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อให้เราสามารถควบคุมการใช้ไฟฟ้าได้เอง เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งโครงการ The Prime ชัยพฤกษ์-วงแหวน โครงการบ้านเดี่ยวที่รองรับทุกคนในครอบครัวของคุณ เลือกใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับความยอดเยี่ยมที่ผสมผสานระหว่างความเป็นปัจจุบันและอนาคตเพื่อความสุขของคุณได้แล้ววันนี้
วิธีง่ายๆ แบบนี้ ลองเอาไปทำตามได้สบาย โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยี IoT หากได้ลองใช้จริงๆ จะรู้ว่าประหยัดไฟฟ้า และช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ยังไงช่วยกันลดใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อช่วยให้โลกของเราน่าอยู่ และไม่ตกใจกับค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงจนเกินไปด้วยนะ!!
